1. หลวงพ่อพระพุทธโสธร หน้าตัก 5 นิ้ว
หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ขอพรสมปรารถนา บันดาลความสําเร็จ กิจการเจริญรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า ร่มเย็นเป็นสุข เป็นสิริมงคลแก่บ้านพักอาศัยเนื้อโลหะ ชนวนแผ่นจารอักขระจากพระเกจิคณาจารย์ ชนวนเก่าของวัตถุมงคลต่างๆ ปลุกเสกโดย สมเด็จธงชัย วัดไตรมิตร กรุงเทพฯ และเกจิคณาจารย์อีกหลายรูป ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต, พระครูธรรมธร ดร มนตรี สุนทรเมโธ ผจล เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร จัดสร้างโดย เจ้าสํานักประฏิบัติธรรมสามหลวงพ่อ และพระครูธรรมธร ดร มนตรี สุนทรเมโธ ผจล เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เพื่อหาทุนในการสร้างหลวงปู่ทวดเหยียบน้ําทะเลจืด องค์ใหญ่ ณ สถานปฏิบัติธรรมสามหลวงพ่อ ต คลองขุด อ เมือง จ ฉะเชิงเทรา ผ่านพิธีการปลุกเสกแล้ว
รายละเอียด :
เนื้อวัตถุมงคล: โลหะ ขนาดวัตถุมงคล ก x ย x
ส): 18 x 23 x 10 ซม
น้ําหนักวัตถุมงคล: 0.5 กก ขนาดสินค้ารวมบรรจุภัณฑ์ ก x ย x
ส): 18 x 23 x 10 ซม
น้ําหนักรวมบรรจุภัณฑ์: 0.5 กก
พระเกจิ: สมเด็จธงชัย วัดไตรมิตร กรุงเทพฯ และเกจิคณาจารย์อีกหลายรูป ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต, พระครูธรรมธร ดร มนตรี สุนทรเมโธ ผจล เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร
ชื่อวัด: เจ้าสํานักประฏิบัติธรรมสามหลวงพ่อ และพระครูธรรมธร ดร มนตรี สุนทรเมโธ ผจล เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร
พุทธคุณ: ขอพรสมปรารถนา บันดาลความสําเร็จ กิจการเจริญรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า ร่มเย็นเป็นสุข เป็นสิริมงคลแก่บ้านพักอาศัย รายละเอียด
วัตถุมงคล: ประวัติหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโสธร หรือ หลวงพ่อพระพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปองค์สําคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา มีพุทธลักษณะ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิราบ พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย ซึ่งวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา ที่มีส่วนสูงถึง ๖ ฟุต ๗ นิ้ว ปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร อําเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยประกอบขึ้นจากหินทราย ๘ ชิ้น แล้วพอกปูนทับให้เป็นองค์ และจากการตรวจสอบพบว่า วัสดุที่ใช้และพุทธศิลป์ เป็นศิลปะในอยุธยาตอนต้น เรื่องเล่าในประวัติศาสตร์ เชื่อกันว่า หลวงพ่อโสธร ประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรมาตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ เจ้าสามพระยา หรือในช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา ประมาณ ๕๐๐-๖๐๐ ปีก่อน ประกอบขึ้นจากหินทรายสมัยอยุธยาตอนต้น พระเจ้าอู่ทอง รุ่นที่ ๒ ประทับอยู่บนบัลลังก์ ๔ ชั้น ปูพื้นด้วยผ้าทิพย์ ที่นิยมกันมากในสมัยนั้น และยังมีพระพุทธรูปที่เป็นบริวารอีก ๑๐ องค์ ที่ประดิษฐานรวมกันบนชุกชี ซึ่งมีพุทธลักษณะแบบเดียวกัน แต่มี ๒ องค์ ที่เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก สร้างขึ้นจากไม้มงคล มีพุทธลักษณะค่อนมาทางอยุธยาตอนปลาย ซึ่งแตกต่างจากองค์อื่นๆ ที่สร้างขึ้นด้วยหินทราย ในสมัยนั้น การสร้างขึ้นด้วยหินทราย ถือเป็นที่นิยมกันมากในช่วงอยุธยาตอนต้น ทําให้สันนิษฐานได้ว่าวัดโสธรและองค์ หลวงพ่อโสธร น่าจะประดิษฐานอยู่บริเวณนั้นมาเป็นเวลาช้านาน และมีการบูรณปฏิสังขรณ์ในยุคสมัยต่อมา ซึ่งเดิมที วัดนี้ มีชื่อว่า โสธรมาตั้งแต่แรกแล้ว โดยตั้งชื่อตามคลองโสธร และในเรื่องที่บอกว่าชื่อ วัดหงษ์ เพราะ เสาหงษ์หัก เลยมีการตั้งชื่อว่าเสาทอน หลังจากนั้น ก็พูดเพี้ยนมาเป็น โสธร ไม่มีหลักฐานยืนยันในทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากตํานาน หลวงพ่อโสธร นั้น นิราศฉะเชิงเทราและโคลงนิราศปราจีนบุรี ที่แต่งขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็กล่าวถึงวัดโสธรเพียงเท่านั้น และไม่มีการกล่าวถึงตํานานหลวงพ่อโสธรแต่อย่างใด ตํานานของหลวงพ่อโสธร ในประวัติศาสตร์ ไม่มีหลักฐานใดที่สามารถยืนยันหรือกล่าวได้ว่า ตํานาน หลวงพ่อโสธร นั้น ใครเป็นผู้สร้าง หรือไม่สามารถรู้ได้ว่ามีการก่อตั้งหรือสร้างขึ้นไว้เมื่อใด มีเพียงการเล่าขานกันต่อๆ มาว่า ในจังหนึ่งของไทย ที่อยู่ทางภาคเหนือ มีพระภิกษุ ๓ องค์พี่น้อง ได้ศึกษาพระธรรมวินัยที่แตกฉานและได้จําแลงกายเป็นพระพุทธรูป ณ พื้นที่บริเวณหนึ่ง ได้เกิดการปรากฏตัวขององค์ หลวงพ่อโสธร และชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ได้ช่วยกันนําเชือกมนิลามาฉุดขึ้น แต่เชือกดันมาขาด และไม่สามารถนําขึ้นมาได้ ก่อนที่พระทั้ง ๓ องค์ นั้นจะจมหายไปในบริเวณที่พระทั้ง ๓ องค์ ได้ลอยทวนน้ําหนี และมีการเรียกขานกันว่า ๓ พระทวน จนต่อมาได้เพี้ยนเป็น สัมปทวน อําเภอเมืองฉะเชิงเทราจวบจนปัจจุบัน ต่อมา มีการปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ที่คลองคุ้ง ชาวบ้านเห็นอีก ก็พากันพยายามหาวิธีฉุดองค์ขึ้นฝั่ง แต่ก็ไม่เป็นผลอีก ซึ่งสถานที่นั้นในปัจจุบัน เรียกกันว่า บางพระ หลังจากนั้นมา พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ก็ได้แสดงอภินิหารในคลองเล็กๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับกองพันทหารช่างที่ ๒ ฉะเชิงเทรา บริเวณนั้น ในปัจจุบัน เรียกว่า แหลมลอยวน และคลองนั้น มีชื่อว่า คลองสองพี่น้อง เมื่อเวลาผ่านไป มีองค์หนึ่งลอยน้ํามาจนถึงแม่น้ํากลอง และได้ปรากฏตัวขึ้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ชาวประมงได้พร้อมใจกันอาราธนาขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลม หรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เป็นพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธศาสนิกชนของจังหวัดสมุทรสงครามให้ความนับถือ ซึ่งในปัจจุบันเรียกกันว่า หลวงพ่อบ้านแหลม จวบจนองค์ที่ ๒ ได้ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าวัดหงษ์ จากการเล่าขานของชาวบ้าน ที่วัดแห่งนี้ เดิมที มีเสาใหญ่ ประดับด้วยหงษ์ที่ทําจากทองเหลืองอยู่บนยอดเสานั้น จึงได้ชื่อว่าวัดหงษ์ ต่อมา หงษ์ที่ยอดเสานั้นตกลงมาหัก ทางวัดจึงนําธงไปติดไว้ที่ยอดเสาแทนรูปหงษ์ จึงมีการเรียกกันว่า วัดเสาธง ต่อมาได้เกิดมีลมพายุแรงพัดเสาต้นนี้หักลงส่วนหนึ่งอีกครั้ง จึงมีการเรียกชื่อวัดเป็น วัดเสาทอน และก็เพี้ยนไปจนกลายเป็นวัดโสธรในปัจจุบัน ชาวบ้านต่างพากันหลั่งไหลมาอาราธนาฉุดขึ้นฝั่งแต่ไม่สําเร็จ ในตอนนั้น ได้มีอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษท่านหนึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องของไสยศาสตร์และรู้เรื่องราวของการทําเทพไสย รู้หลักและวิธีการอาราธนาที่สัมฤทธิผล จึงได้ทําพิธีการปลูกศาลเพียงตาบวงสรวง และกล่าวอัญเชิญชุมนุมเทวดาอาราธนา และใช้สายสิญจน์ผูกคล้องที่พระหัตถ์ขององค์พระพุทธรูป จากนั้นค่อยๆ ฉุด ลากขึ้นมาบนฝั่ง จนทําสําเร็จ เมื่อพระพุทธรูปเสด็จขึ้น